Mission & Goals

ความคาดหวังในการสอนเปียโน?
ผมหวัง (อย่างน้อยๆ) ว่า จะได้ปู พื้นฐานเปียโน ให้ผู้เรียนสามารถ เล่นเปียโน สร้างความสุขให้กับตัวเอง และ คนรอบข้าง สามารถนำความรู้ไปต่อยอดเอง หรือถ่ายทอดต่อให้ผู้อื่นได้

ขอเพียงคนที่มาเรียน แล้วได้ตรงนี้ไป ผมก็ถือว่าขอบคุณแล้ว เพราะท่านมิใช่ได้แก่ตัวท่านเองเท่านั้น แต่ก็ยังเป็นพลังให้ผมได้ทำหน้าที่ครูที่ดียิ่งๆขึ้นต่อไป
เป้าหมายสตูดิโอ?
การฝึกเปียโน เป็นเรื่อง ที่ค่อนข้างเดียวดาย ไม่ใช่จะแบกไป เล่นโชว์ใครได้ง่ายๆ เหมือนเครื่องดนตรีอื่นๆ และ หลายๆ คน ก็หมดไฟไป เพราะ ขาดการตัวชี้วัด ขาดการแลกเปลี่ยน

ที่สตูดิโอนี้ ผมหวังว่า ผู้เรียนด้วยกันเอง ไปจนถึงพ่อแม่ ผู้ปกครองทุกๆคนได้มีโอกาสพูดคุย แลกเปลี่ยน ทำความรู้จักกัน อีกทั้ง ยังมีที่กลางเล็กๆ ในการ จัดกิจกรรม และ ฝึกซ้อมร่วมกัน

จุดนี้ จะเป็นจุดที่ทำให้เราได้ บากบั่นยิ่งขึ้น และ พัฒนา ไปได้ไกลยิ่งขึ้น

คำถามเกี่ยวกับเปียโน (เครื่องดนตรี)

ไม่มีเปียโนแล้วเรียนได้หรือไม่?
ถ้าสั้นๆคือ ไม่ควรครับ เพราะ เมื่อไม่มีเครื่องดนตรีซ้อม การทำซ้ำเพื่อให้เกิดทักษะ มันไม่เกิด ก็จะเสียเวลาเปล่าๆครับ

ลองอ่านต่อไปอีกซักนิด เรื่อง ทางเลือกในการหาซื้อเครื่องดนตรี ไม่นับว่า สมัยนี้เปียโนไฟฟ้า สำหรับเริ่มต้นก็ราคาไม่แพงเลยครับ
ถ้าใช้เครื่อง keyboard ทดแทนอื่นๆ ที่ไม่ใช่เปียโน?
กลุ่มเครื่อง synthesizer หรือ keyboard ที่เราๆเรียกกัน จะมีข้อแตกต่างจาก เปียโน (acoustic piano) และ เปียโนไฟฟ้า (digital piano) ตรงที่ จำนวนลิ่ม และ น้ำหนักลิ่ม (ในการกด หรือ touching / key action)

ส่วนตัวผม จะ 50-50 เรื่องนี้ คือ ใช้เริ่มต้นได้ ในกรณีต่างๆดังนี้
1. เพื่อให้ได้เริ่มทำความเข้าใจกับ layout ของลิ่มขาว-ดำ
2. การทบทวนภาคทฤษฎี เช่น scales, chord pattern หรือ progression
3. การฝึก ear training คือเป็นภาคการฟังซะมากกว่า ฉะนั้นอะไรที่มันกดแล้วเกิดเสียงก็ถือว่า โอเค ใช้ฝึกได้

แต่จะแนะนำว่า เมื่อเรียนไปถึงจุดที่ต้องเริ่มซ้อมเทคนิคเปียโน ซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจเรื่องน้ำหนักลิ่มและการใช้ มือ-ข้อมือ และแขน ตรงนี้ควรจะมีเปียโนไว้ฝึก
ทีนี้ ถ้าท่านมี keyboard อยู่แล้ว ก็ถือว่าใช้เริ่มได้ครับ แต่ผมว่ามันไม่เกิน 2-3 เดือนหรอกครับ ก็ควร upgrade
ทางเลือกในการหาเปียโนเพื่อเริ่มเรียน?
เดี่ยวนี้ เปียโนเข้าถึงง่ายมากครับ ไม่ว่าจะ
1. เปียโนมือสอง
2. ใช้บริการเช่าเปียโน / เช่าซื้อ
3. เปียโนไฟฟ้า
4. เช่าห้องซ้อม ที่มีเปียโน หรือเปียโนไฟฟ้า
5. ส่วนใครกระเป๋าหนักก็จัดมือ 1 ไปเลย!
6. เปียโนไฟฟ้ามือสอง (ใครเลือกเป็น ทางเลือกนี้ ถือว่าประหยัดมาก!)

มาคุยกันได้ครับ เดี๋ยวผมเปรียบเทียบให้ฟัง 🙂
อยากให้แนะนำเปียโน?
ผมอยากแนะนำให้ 2 option ครับ คือ
1. ใช้เปียโนไฟฟ้าครับ ปัจจุบันราคาในช่วง 15,000-50,000฿ มีหลายเกรด หลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะ yamaha, roland, casio, kawai ซึ่งสามารถใช้ได้ยาวๆเลยครับ เกรดที่ประมาณ 30,000฿ ส่วนตัวผมว่ากำลังโอเคเลย คือใช้ได้ตั้งแต่เริ่มต้นยันโปร

สำหรับพวก stage piano หรือพวก luxury ที่ราคาสูงกว่า 50,000 ขึ้นไปถึงประมาณ 2 แสน อันนั้น ของมันดีอยู่แล้วครับ ก็แล้วแต่งบประมาณที่ท่านวางไว้ครับ ถ้ามีก็จัดเลยครับ ผมจะได้ช่วยเห่อด้วยคน 555

2. ซื้อเปียโนมือสอง ราคาอยู่ประมาณ 100,000-300,000 สำหรับ upright และ 500,000-ขึ้นไป สำหรับ grand piano ส่วนใหญ่คนจะจบที่ upright ซึ่งบางคนมองในเชิงการลงทุนจะพบว่า value vs time ไม่เสื่อมมาก (คือราคาตกน้อยมาก)

ใครอยากให้แนะนำก็หลังไมค์มาได้ครับ ผมแนะนำให้ได้ครับ ด้วยความยินดีเลย!
เปียโนไฟฟ้า กับ เปียโนไม้ปกติ ต่างกันอย่างไร?
เอาข้อแตกต่างที่ชัดๆก่อนนะครับ
1. ราคา ข้อนี้น่าจะชัดสุดไฟฟ้า ถูกกว่าเยอะ (ถ้าเป้นรุ่นปกติที่ใช้ๆกัน)
2. การซ่อมบำรุง maintenance -- เปียโนไม้ จะไม่ชอบความชื้น ไม่ชอบห้องทึบๆอากาศไม่ระบาย (ควรเปิดแอร์ให้เค้าบ้าง) และจะมีภาระในการ tune เปียโนเป็นระยะๆ (ปีละครั้ง) ส่วนไฟฟ้านั้น ดูแลว่าอย่าเอาน้ำไปทำหกใส่ คลุมกันฝุ่นไว้หน่อย ก็แทบไม่มีปัญหา
3. ความดัง (เสียงอันจะรบกวนผู้อื่น) -- เปียโนไฟฟ้า จะใส่หูฟังได้ ปรับ volume ได้ ฉะนั้นใครกังวลเรื่องเสียง ไฟฟ้า ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะกว่า
4. น้ำหนัก การขนย้าย -- เปียโนไม้ จะมีน้ำหนักประมาณ 150-250 กิโล ขนย้ายทีต้องมีทีม ส่วนเปียโนไฟฟ้า มีตั้งแต่เบาๆอุ้มแขนเดียว ไปถึง 50-60 กิโล

ข้อแตกต่างอื่นๆ
จุดเด่นของเปียโนไฟฟ้า ที่มีเหนือเปียโนไม้ คือ
1. การบันทึก (ไม่มีเสียงรบกวน)
2. มี features พวกกลอง หรือ backting track ทำให้การซ้อมสนุก
3. บางรุ่นมาพร้อมจอ ที่มีพวก app การสอน หรือบางรุ่นเชื่อม bluetooth หรือ wifi แล้วโหลด app มาใช้ผ่าน mobile ได้
4. ปรับเสียงต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป้นเสียงออร์แกน สตริง เบส ฯลฯ

ทีนี้ เรื่องที่ทุกคนสงสัยคือ แล้ว touching (action) มันต่างกันมากหรือไม่?
แน่นอนในรุ่น 15000-25000 ลิ่มจะหลวมๆ วัสดุ อาจจะสัมผัสแล้วก๊อกแก๊กนิดนึง
ราคา 25000-50000 ผมว่าก็โอเคนะ รับได้ ผมเองก็ใช้ซ้อม ใช้ทำงานทั่วไปอยู่
พวกราคา 50000++ พวกนี้ ส่วนตัวแล้ว ราคาที่เพ่ิ่มขึ้น มันไม่ได้ทำให้เหมือนเปียโนจริงขึ้น แต่เป็นการไปเพิ่ม features อื่นๆมากกว่า
(ไม่รวมพวก stage piano หรือ เปียโนไฟฟ้า ที่่ใช้ไม้มาทำลิ่มและจำลอง piano action เป๊ะๆ อย่าง พวก hybrid piano เข่น yamaha avantgrand)

คำถามเกี่ยวกับช่วงอายุผู้เรียน

เด็กๆ ควรเริ่มเรียนได้ช่วงอายุเท่าไหร่?
อายุเริ่มต้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย จริงๆแล้ว เรื่องดนตรี การเตรียมความพร้อมตั้งแต่เด็กยังอยู่ในครรภ๋ก็มีงานวิจัย และ แนวปฏิบัติมากมาย แต่ถ้าเอาคร่าวๆ
1. น้องๆสามารถ focus กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งประมาณ 20-30 นาที ก็ถือว่าโอเค
2. น้องๆ นับเลขได้ พอเข้าใจ concept ของการบวกลบ
3. น้องๆท่อง ABC ได้
4. น้องๆไม่ปฏิเสธการร้องเพลง ตบมือเข้าจังหวะ

โดยเฉลี่ย สตูดิโอเราเริ่มรับเด็กประมาณ 4-5 ขวบ แต่ก็มีเคยมีเคสพิเศษๆ แบบ child prodigy สามขวบครึ่ง น่ารักมาก เก่งหัวไว

สุดท้ายพวกผมตัดสินใจส่งต่อให้สำนักของ อาจารย์ณัฐ ยนตรรักษ์ (Nat Studio) เพราะท่านสายตรงเลยเรื่องดนตรีคลาสสิค น้องเค้าจะมีโอกาส และได้เปิดโลกที่กว้างกว่าอยู่กับเรา
เด็กมัธยมแล้ว ไม่มีพื้นฐาน เริ่มช้าไปหรือไม่?
ดนตรีไม่มีคำว่าช้าไปครับ น้องๆเพิ่งมัธยมเอง ถ้าเทียบกับพี่ๆลุงๆ ที่เขามาเริ่มกัน 50-60 ถือว่าเริ่มเร็วมาก 555
ก็แค่ว่าเด็กโตๆหน่อย เราก็สอนกันอีกไสตล์นึงไป คือสอนแบบคนโตๆหน่อยคุยกัน

ส่วนใหญ่เด็กวัยนี้ จะเริ่มมีแนวทางของดนตรีตัวเองที่อยากเล่นชัด เรื่องที่สำคัญก็คือ อย่าเอาแต่ตามสังคม ตามเพื่อน เรามาเรียนเพื่อเปิดประตู จงเป็นฟองน้ำ และมีวินัย ตั้งใจซ้อมครับ การเรียนเปียโน ไม่ใช่ว่าจะหยิบเอาที่ถูกใจเรามาเล่นได้หมด หมั่นซ้อมพื้นฐานให้แน่น แล้วเราจะเล่นในสิ่งที่เรารักได้เอง
เด็กๆ (ระดับประถม) เคยเรียนมาบ้าง อยากเรียนเพลงตามสมัย ไม่เรียนคลาสสิคได้ไหม?
ตอบสั้นๆ ก็คือ ได้ครับ การเรียนเพลงตามสมัย หรือที่เราเรียกเพลง pop เนี่ย มันไม่ได้เลวร้ายเลย แต่...
สำหรับทางคุณพ่อคุณแม่ ผมอยากให้คิดดีๆเรื่องนี้ ประเด็นคือ น้องๆมีปมอะไรมาก่อนหรือเปล่า? เช่น
1. ไม่ชอบ หรือ ปฏิเสธการอ่านโน้ต (ปัญหายอดฮิต)
2. ไม่ชอบ “เพลงคลาสสิค” อันนี้ต้องแยกให้ออกก่อน ถึงวิธีการสอนแบบ คลาสสิค กับตัวเพลงคลาสสิค เพราะ เราสามารถสอนเล่นเพลง pop ด้วยวิธีการสอนดั้งเดิมได้

ซึ่งผมทำนายเลยว่า ส่วนใหญ่น้องมักจะไม่ชอบตัว เพลงคลาสสิค ประเด็นนี้เป็นดาบสองคมละ เพลงคลาสสิค ที่เราเรียกกันติดปากนั้น จริงๆแฝงไว้ด้วยหลายยุค ตั้งแต่ Renaissance, Baroque, Classical, Romantic, Impressionism จนเริ่มาคาบเกี่ยวกับยุค Swing หรือ Jazz ในปัจจุบัน
(2a) ถ้าปมเด็กๆคือ การปิดกั้น ที่จะไม่ฟังเพลงในยุคเก่าๆอื่นๆ อันนี้ ก็เป็นประเด็นที่เราควรมาคุยกัยเพื่อปรับไม่งั้นมันจะเป็นเรื่องน่าเสียดายมาก!
(2b) ส่วนว่า ไม่ชอบวิธีการสอนแบบดั้งเดิม อันนี้สิ ปัญหาใหญ่! เพราะเรื่องนี้มันมาจากปมของวินัย และทัศนคติว่า ไม่อยากซ้อม จะเอาแต่เล่นอะไรง่ายๆ ไม่รับ challenge ใหม่ๆ

คือสตูดิโอเราก็ไม่ได้อยากสอนมวยวัดให้เด็กๆ เราก็อยากเห็นน้องๆมีพัฒนาการทั้งทางดนตรี มีทักษะของเปียโน และหูที่ดี แต่มันก็ต้องมาจากพื้นฐานของวินัยด้วย เพราะ ของพวกนี้ไม่ใช่ได้มาง่ายๆครับ

ก็ยอมรับว่า สมัยนี้ mindset ของเด็กๆ คือต้องง่าย ต้องเร็ว
สรุปก็ต้องลองมาคุยกัน เพื่อช่วยกัน ดูว่าปัญหาเกิดจากอะไรจะได้แก้ได้ถูกครับ 🙂
ผู้ใหญ่อายุเยอะแล้วเรียนได้หรือไม่?
อันนี้ต้องถามก่อนว่าเยอะแค่ไหน สตูดิโอเราสูงสุดที่เคยสอนมา อยู่ที่ 72!! โดยเฉลี่ยก็มาเริ่มกันประมาณ 40
ฉะนั้นถ้าอายุเยอะ 35 ปี ผมบอกเลยสบายมาก 555

คำถามเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆของสตูดิโอ

กิจกรรมต่างๆ?
- สตูดิโอเราจัดงานแสดง piano recital หลักๆ ปีละครั้ง
- แทรกด้วยกิจกรรมประเภท mini-project ที่ให้เด็กๆเล่นเพื่อถ่าย vdo & บันทึกเสียง ซึ่งจะเน้นคุณภาพการเล่นไม่ใช่แค่เล่น “พอผ่าน”
- สำหรับเด็กมหาวิทยาลัย ผู้ใหญ่ พวกเราก็จะมาปารตี้เปียโนกัน 3-4 เดือนครั้ง (หรือถี่กว่านั้น ถ้ามีคนจุดประเด็น 555)
- จัด jam sessions สำหรับเด็กโตๆหน่อย
- หลังๆเริ่มมีคนชวนทำกิจกรรมการกุศล ไม่ว่าจะไปบริจาคสิ่งของ เล่นดนตรีให้เด็กด้อยโอกาส ฯลฯ อันนี้ก็แล้วแต่จังหวะและการรวมตัวกัน ซึ่งผมว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเลย
ส่งประกวด ส่งแข่ง?
ถ้ามีน้องๆที่พอไปได้ พวกเราก็เชียร์นะ สุดท้ายก็ต้องแล้วแต่พ่อแม่ด้วยครับ ผมไม่ค่อยซีเรียส

คือต้องคุยกันนะว่าน้องๆเค้าไปไหวจริงๆ หรือเปล่า? ปัจจุบันการเรียนในโรงเรียนก็หนักพอ แถมต้องเรียนเพิ่มสารพัด บางทีเด็กๆก็จะแบ่งเวลามาทุ่มเท ซ้อมเปียโน มันก็ยากหน่อย

คำถามเกี่ยวการสอบเกรด & สถาบันสอบเกรด

ข้อมูลเรื่องการสอบเกรด?
สถาบันที่วัดผล และ certify ด้านดนตรีที่เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก ก็เห็นจะมี 2 ค่ายที่เป็นเป็นสถาบันเก่าแก่ด้านดนตรีของอังกฤษ คือ
1. ABRSM (Associated Board of the Royal Schools of Music) หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า Royal
2. Trinity College London (เดิมคือ Trinity College of Music) หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ Trinity

เปียโนจะแบ่งเป็นภาคปฎิบัติ และ ทฤษฎี ส่วนใหญ่ผู้ปกครองก็จะ focus ไปที่ใบเกรดภาคปฎิบัติ (เกรด 1-8 คล้ายเรียน ประถม-ม.ปลาย) โดยส่วนใหญ่ผมจะส่งสอบของ ABRSM หรือที่เราเรียกกัน royal ก็จะโดนบังคับต้องผ้านทฤษฎี เกรด 5 ก่อน ถึงจะสอบพวก 6-7-8 ได้
ของ Trinity ก็มีมาให้ส่งบ้าง ที่เจอก็คือเรียนมาจากที่อื่น แล้วเตรียมเพลงของ Trinity ไว้

ผมไม่ค่อยส่งสอบทุกเกรด มักจะข้ามๆ เช่น 1 3 5 Theory 6 8 หรือ 2 4 Theory 6 8 หรือบางคน 2 5 Theory 8 ก็มี
ประเด็นคืออยากให้มีช่วงพัก เรียนเพลงอื่นๆ นอกตำราเยอะๆ มากกว่าจะทุ่ม 1 ปีเพื่อเรียนเพลงสอบ 3 เพลง

โดยปกติแล้วเด็กๆที่เรียน ถ้าทำได้ก็จะพยายามให้จบ เกรด 5 ทั้งปฏิบัติ & ทฤษฎัี ก่อนจบ ม.ต้น
และ 3 ปี ม.ปลาย อันนี้ก็ ขึ้นอยู่กับเวลาในการซ้อมเปียโน ของแต่ละคนแล้วว่า จะไปได้ถึง 8 หรือไม่ (7-8 ต้องการเวลาซ้อมเยอะ ส่วนใหญ่จะไปชนกับเวลาเรียน เวลาติว) แต่อย่างน้อยที่สุดผ่าน 6 กันได้ ก็ถือว่าปกติ

ABRSM (Royal) กับ Trinity ต่างกันอย่างไร?
โดยทั่วๆไป มันก็เหมือนๆกันครับ ใครจะบอกว่าค่ายนี้ยากกว่าค่ายนี้ หรือทั่วโลกยอมรับต่างกัน คุณค่าของการสอบ ผมมองว่ามันคือ ประสบการณ์ มากกว่า ใบประกาศ

ส่วนตัวผมนะ มี 2 จุดคือ
1. ที่ผ่านๆมาชอบเพลง Royal มากกว่า คือพอเพลงมันเพราะ คนเล่นก็มีกำลังใจเล่น มีกำลังใจซ้อมเปียโน บางปีเพราะแบบผมยังเอามาเล่นเองบ่อยๆ
2. Royal มีภาคบังคับสอบ grade 5 theory ซึ่งผมว่า ตรงนี้ดีมากๆ มันจะเป็นช่วงเวลาที่ เด็กๆจะได้ บูรณาการความเข้าใจด้านดนตรี ไม่นับว่าหลายๆอย่างในภาค theory เป็นเรื่องที่ควรรู้ทั้งนั้น ในชีวิตการเล่นดนตรีจริงๆ

ที่จริง ยังมีหลายประเด็นย่อยๆ ที่ทำให้ผมเลือกส่ง Royal เป็นหลัก แต่ในกรณีน้องๆเรียนสอบ Trinity มาก่อนหน้า แล้วต้องการให้สานต่อ ผมก็ไม่มีปัญหาเรื่องส่งสอบของ Trinity ครับ

คำถามเกี่ยวกับเวลาเรียน

จัดเวลาเรียนอย่างไร?
เวลาเรียนของเรา fixed เป็นวัน-เวลา เช่น วันเสาร์ 10.00-11.00 หรือ 10.00-10.30
การนับจำนวนครั้ง ก็ดูว่า เดือนนั้นๆ มีกี่ เสาร์ๆ (บางเดือนมี 4 บางเดือนมี 5 ก็คิดไปตามจำนวนครั้งที่ต้องเรียน)


ฉะนั้นก็ระวังเรื่องจราจรกันนิดนึงนะครับ มาให้ทันก่อนซักนิดนึงก็ดี จะได้ไม่ไปกินเวลาคนถัดๆไป
เด็กมหาวิทยาลัย ผู้ใหญ่ทำงาน ไม่สามารถเรียนทุกสัปดาห์ได้ หรืออยากนัดเรียนเป็นครั้งๆ?
เรียนกันได้นะครับ แต่อันนี้ ก็ขอให้บอกผมไว้ตั้งแต่โทรคุยกันเลยนะ ว่าประสงค์จะเรียนแบบนี้ ผมเองจะได้ลงตารางถูก คือมันจะมีอยู่ 2 แบบ
1. เดี๋ยวนี้ผมจะมี ชั่วโมงประเภทที่ นาย ก. จองเวลาไว้ X ครั้งต่อ เดือน ก็จะมาจัดคิว สลับกับนาย ข. ซึ่งประสงค์จะเรียนลงเป็นวันๆเหมือนกัน
2. เป็นชั่วโมงที่ผมว่างเพราะมีคนลาไว้ ก็อาจจะนัดมาเรียนกันได้ ซึ่งอาจจะต้องแจ้งนัดกันเดือนต่อเดือน หรือ 1-2 สัปดาห์ที
มาสาย?
ถ้ารถติด มาไม่ทัน หรือต้องสาย ก็โทรแจ้งกันนะครับ ผมยังไงก็พยายามปรับ/ขยับเวลาให้เท่าที่ทำได้อยู่แล้ว
อย่าลืมว่า หมดชั่วโมงก็มีคนมาเรียนต่อเรานะครับ ผมอยากให้ทุกคนเท่าๆกัน แต่ก็ต้องแฟร์กับทุกคนด้วย

คำถามอื่นๆ

การนัดทดสอบ หรือ พูดคุยแนวทาง การเรียน การสอน ครั้งแรก?
โทรจองเวลา ประมาณ 40 นาที – 1 ชั่วโมง เข้ามานั่งคุยกันสนุกๆเลยครับ โดยการนัดพบกันครั้งแรก จะเป็นการทดสอบพื้นฐาน หรือ พูดคุยแนวทางการเรียนการสอน โดยเฉพาะกับคุณพ่อแม่ (ในกรณีของเด็ก)
สำหรับเด็กโต หรือผู้ใหญ่ การพูดคุยจะเน้นที่เป้าหมาย และ วัตถุประสงค์ของการเรียน ความชอบ และ ประสบการณ์ดนตรีพื้นฐาน
สถานที่เรียน / ติดต่อ?
การเรียน / ราคา?
การชำระเงิน?
ชำระเงิน ล่วงหน้า ตามจำนวนครั้ง (ชั่วโมง) ที่เรียน (ต่อเดือน)
ชำระเงินทุกสัปดาหสุดท้ายก่อนขึ้นเดือนใหม่ หรือไม่เกินสัปดาห์แรกของเดือนใหม่
การแจ้งหยุด / การลาฉุกเฉิน / ชดเชย?
ท่านสามารถ แจ้งหยุด ตั้งแต่ต้นเดือนในสัปดาห์แรก หากมีภารกิจที่ต้องขาดเรียน อันนี้ผมก็ไม่ค่อยซีเรียส เรื่องหยุดนะครับ

ส่วนถ้าจะ ลาฉุกเฉิน ก็บอกผมหน่อยนะซัก 1-2 วันก่อนก็จะดี ผมจะได้จัดตารางให้คนอื่นได้ทัน

เราจะนัดกันมาชดเชยวันอื่น หรือเก็บไปโปะเป็นชั่วโมงเดือนถัดไปก็ได้